บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) โดย น.ส.กฤษณา องอาจณรงค์ ผู้จัดการแผนก ฝ่ายทรัพยากรมนุษย์ รับมอบรางวัล “หนังสือชมเชย ผู้ช่วยเหลือราชการกรมป่าไม้” จากนายพิชิต สมบัติมาก รองปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในสาขาส่งเสริม และพัฒนาป่าชุมชน เนื่องในวันคล้ายวันสถาปนา ครบรอบ 127 ปี กรมป่าไม้ ซึ่งตรงกับวันที่ 18 กันยายนของทุกปี

ศุภาลัย มีส่วนร่วมในการดูแลทรัพยากรป่าไม้ทั้งในด้านการฟื้นฟูและพัฒนา โดยเป็นหนึ่งในภาคเอกชนที่เข้าร่วมโครงการ Care the Wild ของตลาดหลักทรัพย์ฯ สนับสนุนกิจกรรมปลูกต้นไม้ในพื้นที่ป่าชุมชน โดยตั้งแต่ปี 2565 – ปัจจุบัน ศุภาลัย ได้พัฒนาป่าชุมชนและปลูกต้นไม้รวมกว่า 4,000 ต้น บนพื้นที่ 20 ไร่  ณ ป่าชุมชน บ้านโคกพลวง อ.จักราช จ.นครราชสีมา ซึ่งจะอุดมสมบูรณ์ไปด้วยไม้ยืนต้นและไม้กินได้ อาทิ มะค่าโมง, พะยูง, ประดู่, มะขามป้อม, ขี้เหล็ก, ไผ่ซางหม่น และเมื่อต้นไม้ทั้ง 20 ไร่เจริญเติบโตจะสามารถช่วยดูดซับก๊าซเรือนกระจกได้ 36,000 กิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี 

บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) ยกระดับคุณภาพชีวิตลูกหลานช่างก่อสร้าง สานต่อกิจกรรม “น้องสุขดี พี่สุขใจ” ดูแลจัดเตรียมทีมแพทย์และพยาบาล ให้บริการตรวจสุขภาพ พร้อมฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ฟรี! เพื่อส่งเสริมให้เด็กๆ มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง และลดภาระค่าใช้จ่ายของพ่อแม่ที่เป็นช่างก่อสร้างกว่า 50 ครอบครัว จัดขึ้นโซนรังสิต – ลำลูกกา – ปทุมธานี มุ่งหวังพัฒนาคุณภาพชีวิตเด็กๆ 300 คน ภายในปี 2568

นายกิตติพงษ์ ศิริลักษณ์ตระกูล รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ใส่ใจถึงคุณภาพชีวิตของทุกคนในกระบวนการทางธุรกิจ จึงได้ริเริ่มจุดประกายโครงการ “Happiness Camp” ขึ้นในปี 2563 โดยมุ่งหวังพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืนของช่างก่อสร้าง รวมถึงคนในครอบครัวอย่างน้องๆ ที่เป็นลูกหลานอยู่อาศัยในแคมป์ก่อสร้าง อาทิ การศึกษา สุขภาพ ความเป็นอยู่ที่ถูกสุขอนามัย รวมถึงพื้นที่ปลอดภัยสำหรับเด็ก สำหรับปี 2566 บริษัทฯ ยังคงสานต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตลูกหลานช่างก่อสร้างให้เป็นรูปธรรมและครอบคลุมในทุกมิติมากขึ้น โดยตั้งเป้าหมายพัฒนาคุณภาพชีวิตเด็กๆ จำนวน 300 คน ภายในปี 2568 กับกิจกรรม “น้องสุขดี พี่สุขใจ” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการเพื่อสังคมภายใต้ “ศุภาลัย สร้างดี” ที่ร่วมสร้างสรรค์ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีสู่เพื่อนร่วมงานในวงจรการผลิต โดยยึดหลักสิทธิมนุษยชนในการดูแลอย่างเป็นธรรม อีกทั้งยังมีการยกระดับคุณภาพชีวิตของลูกหลานช่างก่อสร้าง ให้เข้าถึงสวัสดิการด้านสุขภาพที่ควรจะได้รับ โดยได้นำทีมแพทย์และพยาบาล จากโรงพยาบาลกรุงไทย มาให้บริการตรวจสุขภาพลูกหลานช่างก่อสร้าง โซนรังสิต – ลำลูกกา – ปทุมธานี ณ โครงการศุภาลัย เลควิลล์ ศรีสมาน – ปทุมธานี

ภายในงานมีการให้บริการปรึกษาปัญหาสุขภาพกับกุมารแพทย์ เพื่อตรวจสุขภาพเบื้องต้น อาทิ ตรวจเลือดเพื่อตรวจหาเชื้อไวรัสตับอักเสบบี ตรวจวัดสายตาด้วยระบบคอมพิวเตอร์ ตรวจเอกซเรย์ปอดเพื่อดูสภาพความสมบูรณ์ของร่างกาย รวมถึงให้บริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ 4 สายพันธุ์ โดยมีลูกหลานช่างก่อสร้างที่ได้เข้ารับการตรวจสุขภาพจำนวน 53 คน และช่วยลดค่าใช้จ่ายให้กับพ่อแม่ของน้องๆ รวมทั้งหมดประมาณ 120,000 บาท นอกจากนี้บริษัทฯ ยังได้สนับสนุนของใช้สำหรับเด็ก อาทิ ของอุปโภคบริโภค อุปกรณ์เพื่อการศึกษาและของเล่น มูลค่ากว่า 25,000 บาท และได้รับแรงสนับสนุนการจัดงานจากทีมคณะกรรมการสวัสดิการและพนักงานศุภาลัย

กิจกรรม “น้องสุขดี พี่สุขใจ” ที่ทางบริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) ได้ดำเนินการจัดขึ้นมาในครั้งนี้เพื่อมุ่งหวังให้ลูกหลานช่างก่อสร้าง มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นในเรื่องสุขอนามัย และส่งเสริมให้เด็กทุกคน มีการดูแลรักษาสุขภาพอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันร่างกายให้แข็งแรง เพราะเราเชื่อมั่นว่า “สุขภาพที่ดี เป็นพื้นฐานของชีวิตที่ดีต่อไป” สามารถติดตามกิจกรรม CSR ดี ๆ เพื่อสังคมได้ที่ www.supalai.com และ Facebook Page : Supalai                                    

บมจ.ศุภาลัย ติวเข้มวิชาอสังหาฯ เปิดบ้านต้อนรับสองบริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ขนาดกลางและขนาดย่อม(SMEs) สานต่อโครงการ Big Brother Season 7 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 6  ตั้งมั่นแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ระหว่างองค์กรขนาดใหญ่และขนาดเล็ก เพื่อเกิดแรงกระเพื่อมในการพัฒนาภาคอุตสาหกรรมที่อยู่อาศัยในทุกระดับและตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริง

นายราชัย ปิยวาจานุสรณ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าในปี 2566 นี้ ศุภาลัย ยังคงเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของประเทศเพียงรายเดียวที่รับบทบาท “พี่เลี้ยง” ในการเข้าร่วมและสนับสนุนโครงการ “Big Brother” ซึ่งจัดขึ้นโดยสภาหอการค้าไทย โดยในปีนี้ได้ถ่ายทอดวิชาอสังหาฯและเคล็ดลับความสำเร็จในแบบฉบับของศุภาลัย ให้กับ 2 บริษัทน้องเลี้ยง คือบริษัท บี มอร์ เอสเตท จำกัด และบริษัท โสภณทาวเวอร์เฮาด์ จำกัดที่ดำเนินธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในระดับภูมิภาค ทั้งจ.ปราจีนบุรี และจ.พิจิตร โดยหวังเพิ่มเติมและแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้านที่อยู่อาศัยแก่กันและกันในมิติต่าง ๆ โดยไม่ได้มองว่าต่างก็เป็นคู่แข่งขันทางธุรกิจ อีกทั้งยังมุ่งมั่นเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างความยั่งยืนในการดำเนินกิจการให้กับผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ไทย เพื่อให้เห็นถึงความสามารถในการสร้างโอกาสทางธุรกิจควบคู่ไปกับการก่อให้เกิดประโยชน์กับทุกภาคส่วนของสังคม

นางสาวเสาวลักษณ์ นาคภัทระพงศ์ และ นางสาวจิณห์จุฑา ภูวเดชนิกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท บี มอร์ เอสเตท จำกัด เปิดเผยถึงเหตุผลที่เข้าร่วมโครงการต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ต่อทันทีหลังจากทราบว่า ศุภาลัย ยังคงเป็นบริษัทพี่เลี้ยง เนื่องจากประทับใจที่ในปีที่แล้วบริษัทได้รับหลากหลายคำแนะนำที่มีประโยชน์ต่อการดำเนินธุรกิจ อาทิ การตั้งทีม In House Marketing ของตัวเอง เพิ่มแผนกสำคัญต่างๆ รวมทั้งพัฒนาระบบหลังการขาย ส่งผลให้การบริหารจัดการของบริษัทมีความมั่นคงและแข็งแรงขึ้น รวมทั้งส่งผลให้ยอดขายเติบโตขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า อีกทั้งปีนี้ศุภาลัยได้ชวนมาดูโครงการ ศุภาลัย วิลล์ ศรีราชา – บ่อวิน และโครงการศุภาลัย พาร์ควิลล์ พัทยา – สุขุมวิท ที่จ.ชลบุรี ซึ่งใกล้เคียงกับกิจการโครงการของ บี มอร์ ที่ดำเนินธุรกิจในจ.ปราจีนบุรี โดยมีกลุ่มลูกค้าส่วนหนึ่งเป็นพนักงานนิคมอุตสาหกรรมเช่นเดียวกัน ทำให้สามารถเรียนรู้คำแนะนำจากศุภาลัยมาปรับใช้ และพัฒนาต่อเนื่องไปกับโครงการของบริษัทในอนาคตได้

ด้านนายโสภณ อิงคนินันท์ กรรมการบริษัท โสภณทาวเวอร์เฮาด์ จำกัด ผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ในจ.พิจิตร มานานกว่า 10 ปี กล่าวว่าได้ยินชื่อเสียงที่ดีของศุภาลัยมานาน ตั้งแต่เรียนจบภาควิชาวิศวกรรมโยธา คณะวิศวกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง อีกทั้งยังเคยอ่านบทความและชื่นชมในความรู้ความสามารถของ ดร.ประทีป ตั้งมติธรรม ประธานกรรมการบริหาร บมจ.ศุภาลัย ซึ่งท่านเป็นสถาปนิก และเริ่มต้นธุรกิจด้วยการออกแบบโครงการด้วยตัวเอง โดยหลังจากได้เข้าร่วม Big Brother รู้สึกเกินคาดมาก เพราะศุภาลัยไม่ได้ให้คำแนะนำแค่พื้นฐานการทำธุรกิจอสังหาฯ ทั่วๆไป แต่ทั้งผู้บริหารอย่าง คุณราชัย และทีมงานศุภาลัย ได้ไปดูโครงการของตนที่จังหวัดพิจิตร และได้ให้คำแนะนำและชี้แนะอย่างละเอียดเสมือนเป็นเจ้าของโครงการเอง ทำให้ได้ความรู้และมุมมองใหม่ที่คาดไม่ถึง อีกทั้ง ศุภาลัย ทำให้กล้าคิดโจทย์ที่ท้าทายมากขึ้นเพื่อก้าวข้ามผ่านเซฟโซนของตัวเอง

ศุภาลัย ตั้งมั่นสร้างสรรค์และพัฒนานวัตกรรมสินค้าและบริการอย่างต่อเนื่อง เพื่อผลประกอบการที่ดี โดยคำนึงถึงประโยชน์ของผู้มีส่วนได้เสีย สังคม สิ่งแวดล้อม และธรรมาภิบาล ด้วยความเป็นมืออาชีพเพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุดของลูกค้า และไม่ลังเลที่จะนำองค์ความรู้ที่สั่งสมมาตลอดกว่า 34 ปีมาแบ่งปันให้กับผู้ประกอบการรายอื่นๆ  เพื่อก่อให้เกิดการพัฒนาภาคอุตสาหกรรมที่อยู่อาศัย และยกระดับวงการอสังหาริมทรัพย์ไทยให้แข็งแกร่งและเติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป

บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) สานต่อกิจกรรม “แว่นสร้างสุข” ภายใต้โครงการ “ศุภาลัย สร้างดี” เพื่อเดินหน้าตามแผนพัฒนาคุณภาพชีวิตแก่ช่างก่อสร้างเป็นปีที่ 2 ตามเป้าหมาย…สนับสนุนค่าใช้จ่ายตัดแว่นสายตาให้กับช่างก่อสร้างในกรุงเทพฯ และปริมณฑล จำนวน 1,000 คน ภายในปี 2568  ร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจ บริษัท หอแว่นกรุ๊ป จำกัด ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพสายตา ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายกรอบแว่น และเลนส์สายตาคุณภาพอันดับต้นของประเทศไทย พร้อมจับมือลงพื้นที่สร้างดี ตรวจวัดสายตาให้กับช่างก่อสร้างกว่า 150 ชีวิต ในโซนรังสิต-ลำลูกกา-ปทุมธานี

นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากปีที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้นำร่องกิจกรรม “แว่นสร้างสุข” ร่วมกับทาง บริษัท หอแว่นกรุ๊ป จำกัด โดยลงพื้นที่โซนศรีนครินทร์ บางนา ซึ่งได้รับความสนใจและเสียงตอบรับที่ดีจากคนงานก่อสร้างจำนวนมาก สามารถช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายตัดแว่นสายตาให้กับตนเองและครอบครัวได้ ส่งผลให้บริษัทฯ พร้อมสานต่อกิจกรรม “แว่นสร้างสุข” เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต ของช่างก่อสร้างให้ดีขึ้นอย่างทั่วถึงและสร้างคุณค่าทางสังคมอย่างยั่งยืน โดยวางเป้าหมาย สนับสนุนงบประมาณในการตัดแว่นสายตา จำนวน 1,000 คน ภายในปี 2568 เตรียมลงพื้นที่ครอบคลุมทั่วทุกกรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมถึงบริษัทฯ มีการเปิดรับบริจาคแว่นสายตา แว่นตากันแดด กรอบแว่นจากเพื่อนๆ พนักงาน เพื่อส่งต่อให้กับช่างก่อสร้างตามโครงการต่างจังหวัด โดยนำร่องส่งมอบโครงการแรกที่ ศุภาลัย แกรนด์ วิลล์ แม่กรณ์-เชียงราย และมีแผนจัดกิจกรรมดังกล่าว เพื่อส่งต่อความช่วยเหลือไปสู่ช่างก่อสร้างในจังหวัดอื่นๆ  

“แว่นสร้างสุข” ปีที่ 2 พร้อมสร้างการมองเห็นที่ชัดเจน ดูแลปัญหาสายตาทุกคู่ ให้กับช่างก่อสร้างโดยในปีนี้ บริษัทฯ พร้อมขยายโซน ลงพื้นที่จัดกิจกรรมร่วม “สร้างดี” กับพันธมิตร เริ่มโซนแรกของปีรังสิต-ลำลูกกา-ปทุมธานี” ซึ่งมีหลากหลายโครงการบ้านของศุภาลัย ที่อยู่ในช่วงกำลังก่อสร้าง และได้มีการสำรวจความต้องการคนงานก่อสร้างที่ต้องการตัดแว่นสายตาจำนวนกว่า 150 คน (ช่วยลดค่าใช้จ่ายได้ถึง 375,000 บาท) โดยบริษัทฯ พร้อมระดมทีมงาน CSR ทีมงานจากฝ่ายก่อสร้าง และทีมผู้เชี่ยวชาญจากหอแว่น ลงพื้นที่ให้บริการตรวจวัดสายตา
 ณ โครงการ ศุภาลัย เลควิลล์ ศรีสมาน – ปทุมธานี  และเตรียมส่งมอบแว่นสายตาคุณภาพมาตรฐานให้กับช่างก่อสร้างที่เข้ารับการตรวจภายใน 15 วันหลังจากนี้

นายภาคี ประจักษ์ธรรม ประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท หอแว่นกรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า ทางหอแว่นมีความยินดีที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการแว่นสร้างสุข ซึ่งได้เข้าร่วมมาตั้งแต่ปี 2565 จนถึงปัจจุบัน และจะดำเนินการร่วมกับทางศุภาลัย จนครบตามเป้าหมายของวัตถุประสงค์ที่วางไว้ คือ ตัดแว่นให้ช่างก่อสร้าง จำนวน 1,000 คน ภายในปี 2568 โดยหอแว่นได้ส่งบุคลลากรที่มีความชำนาญในการตรวจวัดสายตาลงพื้นที่ร่วมกับทีมงานของศุภาลัย พร้อมกับจัดหากรอบแว่นสายตาและเลนส์ที่มีคุณภาพ เพื่อให้ช่างก่อสร้างได้มีแว่นตาที่ดี มีคุณภาพ และมองเห็นได้ดี อ่านหนังสือ หรือสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ดีขึ้น ทางบริษัทหอแว่นหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการจับมือร่วมกัน บมจ.ศุภาลัย ในการ “สร้างดี” มอบแว่นตา มอบการมองเห็นที่ชัดเจนให้กับช่างก่อสร้าง จะเป็นส่วนช่วยทำให้คุณภาพชีวิตของช่างก่อสร้างดีขึ้น และช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ได้ ทางหอแว่นก่อตั้งมากว่า 70 ปี ซึ่งทางผู้บริหารให้การสนับสนุนงานด้าน CSR มาโดยตลอด อาทิเช่น โครงการแด่น้อง, โครงการแว่นแก้ว เป็นต้น โดยมอบหมายให้ทีมงานลงพื้นที่ตรวจวัดสายตาและตัดแว่นให้ทั้งเด็ก, ผู้สูงอายุ  หรือ ผู้มีความต้องการแว่นสายตา อันเนื่องจากปัญหาด้านการมองเห็น ประกอบกับมีรายได้น้อย ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ในพื้นที่ห่างไกล

ทั้งนี้กิจกรรม “แว่นสร้างสุข” เตรียมขยายโซน ลงพื้นที่วัดสายตาอีกครั้งในช่วงปลายปี 66  โดย
บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) และบริษัท หอแว่นกรุ๊ป จำกัด ยังคงร่วมผนึกกำลังส่งมอบแว่นสายตาคุณภาพมาตรฐานให้กับช่างก่อสร้าง ตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ เพราะเราเชื่อมั่นในการให้ความช่วยเหลือ การสร้างคุณค่าร่วมกันทางสังคม และการยกระดับคุณภาพชีวิตของช่างก่อสร้างซึ่งเป็นหนึ่งในผู้มีส่วนได้เสียที่เกี่ยวข้องกับบริษัทฯ อย่างยั่งยืน สามารถติดตามกิจกรรม CSR ดีๆ เพื่อสังคมได้ที่ www.supalai.com และ Facebook Page : Supalai

บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) โดยนายอธิป พีชานนท์ ประธานคณะกรรมการบริหารความเสี่ยง พร้อมด้วยกรรมการบริหารความเสี่ยง จัดการประชุมเพื่อรับฟังความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้เสีย ประจำปี 2566 เพื่อนำองค์กรเดินหน้าไปสู่ความยั่งยืน (Environmental, Social and Governance : ESG) ร่วมกับผู้บริหารสถาบันการเงินและสื่อสารมวลชน ได้แก่ ธนาคารออมสิน, ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน), ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน), ประชาชาติธุรกิจ และ บริษัท อาร์ตโฟร์ดีโค จำกัด ในหัวข้อมุมมองภาพลักษณ์ด้านสินค้า การบริการ ธรรมาภิบาล ความยั่งยืน การพัฒนาภาพลักษณ์องค์กร และการประเมินความเสี่ยง รวมถึงความคาดหวังของผู้มีส่วนได้เสีย เพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า

บมจ.ศุภาลัย ชวนผู้บริหารและพนักงานสายกรีนกว่า 100 ชีวิต เดินหน้าสร้างดีคืนพื้นที่สีเขียวให้ชุมชนบ้านโคกพลวง อ.จักราช จ.นครราชสีมา ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ด้วยการปลูกต้นไม้นานาพันธุ์ รวมตั้งแต่ปี 2565 – 2566 มากถึง 4,000 ต้น บนพื้นที่ป่าจำนวน 20 ไร่ ดูดซับการปล่อยคาร์บอนสนับสนุนเป้าหมายลดก๊าซเรือนกระจกของไทย เสริมสร้างคุณภาพชีวิต เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืนแก่ชุมชน

นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ควบคู่ไปกับการบริหารจัดการที่คำนึงถึงธรรมาภิบาล การเติบโตอย่างยั่งยืน หรือ ESG  มายาวนานถึง 34 ปี อีกทั้งยังตระหนักถึงความสำคัญในการดูแลสิ่งแวดล้อมร่วมกับการสร้างโครงการที่อยู่อาศัย และพร้อมสนับสนุนการลดก๊าซเรือนกระจกของประเทศไทยด้วยการส่งเสริมงานความยั่งยืนในมิติการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมร่วมกัน ศุภาลัยจึงจับมือร่วมกับพันธมิตรจากโครงการ Care The Wild ทั้ง ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และกรมป่าไม้ จัดกิจกรรม “Supalai Grow Green” ปลูกต้นไม้เพิ่มพื้นที่ผืนป่า ณ ชุมชนโคกพลวง อ.จักราช จ.นครราชสีมา เพิ่มเติมอีก 10 ไร่ ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 หลังจากที่ ศุภาลัย สนับสนุนการปลูกเมื่อปี 2565 ที่ผ่านมาจำนวน 10 ไร่ รวมพื้นที่ปลูกทั้งสิ้น 20 ไร่

โดยในปี 2566 นี้ บริษัทฯ ได้ชวนผู้บริหาร พนักงาน รวมทั้งชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงกว่า 150 คน ปลูกต้นไม้เพิ่มในพื้นที่ 10 ไร่บริเวณข้างเคียงแปลงปลูกเดิม จำนวน 2,000 ต้น ทำให้บนพื้นที่ 20 ไร่ที่สนับสนุนโดย ศุภาลัย จะมีต้นไม้ที่ปลูกรวมกันถึง 4,000 ต้น ซึ่งจะอุดมสมบูรณ์ไปด้วยไม้ยืนต้นและไม้กินได้ อาทิ มะค่าโมง, พะยูง, ประดู่, มะขามป้อม, ขี้เหล็ก, ไผ่ซางหม่น และเมื่อต้นไม้ทั้ง 20 ไร่เจริญเติบโตจะสามารถช่วยดูดซับก๊าซเรือนกระจกได้ 36,000 กิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี โดยยังคงมีชาวชุมชนบ้านโคกพลวงเป็นกำลังสำคัญในการรักษาป่า ให้อยู่รอดและเจริญเติบโตอย่างยั่งยืนได้ 100% เพื่อประโยชน์ต่อการแก้ปัญหาระบบนิเวศ เป็นแหล่งอาหารชุมชนในอนาคต รวมทั้งเป็นการขยายพื้นที่ป่าให้กับชุมชนเพื่อเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติต่อไป

บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) นำโดย นายณัฐพล แสนคำมงคล ผู้ช่วยผู้จัดการโครงการ พร้อมด้วยพนักงานโครงการ ศุภาลัย ทัสคานี ดอนแก้ว-แม่ริม ส่งมอบงานปรับปรุงซ่อมแซมห้องน้ำสำหรับบริการประชาชน มูลค่า 290,000 บาท ให้แก่นายสุภกิจ หน่อสุวรรณ์ เจ้าพนักงานที่ดิน ณ สำนักงานที่ดินเชียงใหม่ สาขาแม่ริม     อีกทั้งมอบตู้กดน้ำร้อนน้ำเย็น เพื่ออำนวยความสะดวกและดับกระหายแก่ประชาชนผู้มาใช้บริการ โดยมีนายณัฐวุฒิ แก้วบัวระพา ปลัดอำเภอแม่ริม (เจ้าพนักงานปกครองปฏิบัติการ) เป็นผู้รับมอบ

ศุภาลัย ดำเนินธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ทั่วประเทศควบคู่กับความรับผิดชอบต่อสังคม ภายใต้ชื่อโครงการ “ศุภาลัย สร้างดี” เพื่อมุ่งหวังที่จะเห็นการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีด้วยการพัฒนาสังคม ให้โอกาสทางการศึกษา และสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน โดยนำเอาหลักการบ้านที่ดี หัวใจหลักของการสร้างที่อยู่อาศัยที่ดี มาเป็นแนวทางในการสร้างสรรค์สิ่งดี เริ่มจากเรื่องง่ายๆ ใกล้ตัว ตั้งแต่พนักงานในองค์กร คู่ค้าทางธุรกิจ โครงการที่อยู่อาศัยของศุภาลัย ตลอดจนสังคมและชุมชมรอบข้าง โดยที่ทุกฝ่ายสามารถมีส่วนร่วม เพื่อสร้างสิ่งดีๆ คืนให้กับโลกนี้ไปด้วยกัน

บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) ผนึกกำลัง บริษัท ดั๊บเบิ้ล เอ (1991) จำกัด (มหาชน) ร่วมกันสร้างดีผ่านโครงการ Hero Zero by Double A X Supalai ชวนเก็บกระดาษใช้แล้วส่งคืนนำไปรีไซเคิล ตั้งเป้ารวมกระดาษใช้งานแล้ว จำนวนทั้งสิ้น 12,000 กิโลกรัม เท่ากับการมอบสมุดเพื่อการศึกษา 24,000 เล่ม ช่วยลดค่าใช้จ่ายให้ครัวเรือนกว่า 300,000 บาท ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากการนำกลับไปรีไซเคิลได้ถึง 1,710 กิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์ต่อปี พร้อมยังชวนเก็บห่อกระดาษ ส่งต่อให้ผู้ด้อยโอกาสพับถุงยาสร้างรายได้ และนำไปมอบให้โรงพยาบาลต่างๆ ใส่ยาให้คนไข้ตามนโยบายภาครัฐที่ลดการใช้ถุงพลาสติก ลดปริมาณขยะ ลดโลกร้อน และช่วยเหลือสังคมอย่างยั่งยืน

นายกิตติพงษ์ ศิริลักษณ์ตระกูล รองกรรมการผู้จัดการ สายงานก่อสร้างอาคารสูง บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ตามที่บริษัทฯ มีเป้าหมายความยั่งยืนขององค์กรด้านสิ่งแวดล้อม ด้วยการลดก๊าซเรือนกระจก 25% ภายใน 3 ปี และมีเป้าหมายความยั่งยืนด้านสังคมเพื่อสร้างความสุขสู่สังคมไทย ครอบคลุมทุก Stakeholders ภายใต้โครงการ ศุภาลัย สร้างดี มุ่งหวังที่จะเห็นการเปลี่ยนโลกไปด้วยกัน ด้วยการพัฒนาสังคม สร้างอาชีพ ให้โอกาสทางการศึกษา และสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน

พันธมิตรธุรกิจที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมและสังคม ที่มีจุดมุ่งหมายเดียวกันกับศุภาลัย เป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องคำนึงถึงเป็นอันดับแรก อย่างเช่นการเลือกใช้กระดาษสำนักงานทั้งในอาคารศุภาลัย แกรนด์ ทาวเวอร์ สำนักงานใหญ่ สำนักงานขายและสำนักงานก่อสร้างทั่วประเทศนั้น ทางบริษัทฯ ได้เลือกใช้สินค้าจาก ดั๊บเบิ้ล เอ เนื่องจากเป็นกระดาษรักษ์โลกที่ผลิตจากต้นไม้ปลูกเอง ไม่รบกวนไม้จากธรรมชาติ

ล่าสุดมีแนวคิดนำกระดาษที่ใช้งานแล้วมารีไซเคิลกลับมาใช้ประโยชน์อย่างเป็นรูปธรรมผ่านโครงการ Hero Zero by Double A X Supalai กระดาษทุก 1 กิโลกรัมที่เก็บกลับ เท่ากับทางศุภาลัยได้ร่วมมอบสมุดเพื่อการศึกษา จำนวน 1 เล่ม และ ดั๊บเบิ้ล เอ สมทบอีก 1 เล่ม เพื่อส่งมอบให้กับน้องๆ ในโรงเรียนที่ขาดแคลน คาดว่าจะสามารถรวมกระดาษใช้งานแล้วจำนวนทั้งสิ้น 12,000 กิโลกรัม เท่ากับการมอบสมุดเพื่อการศึกษา 24,000 เล่ม ช่วยลดค่าใช้จ่ายให้ครัวเรือนกว่า 300,000 บาท ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 1,710 กิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์ต่อปี

พร้อมรวมพลังสร้างดีกันต่ออีก 1 โครงการ คือ ถุงยารักษ์โลก ด้วยการเก็บห่อกระดาษของดั๊บเบิ้ล เอ พับเป็นถุงยา และนำไปมอบให้โรงพยาบาลต่างๆ เพื่อใช้ใส่ยาให้คนไข้ ลดการใช้ถุงพลาสติก ลดปริมาณขยะ บริษัทฯ ตั้งกล่องรับกระดาษอยู่ที่กรีนโซน ชั้นล็อบบี้ อาคารศุภาลัย แกรนด์ ทาวเวอร์ ถนนพระราม 3 ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ – เดือนธันวาคม 2566 เป็นเวลา 11 เดือน และในอนาคตยังเตรียมขยายโครงการไปยังสำนักงานขายและสำนักงานก่อสร้างทั่วประเทศต่อไป

นายชาญวิทย์ จารุสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ดั๊บเบิ้ล เอ  (1991)  จำกัด  (มหาชน) กล่าวว่า ดั๊บเบิ้ล เอ เป็นองค์กรที่ดำเนินธุรกิจด้วยความใส่ใจด้านสิ่งแวดล้อม และสังคม อย่างยั่งยืน ภายใต้แนวทาง ESG และยังเป็นหนึ่งในสมาชิกเครือข่ายคาร์บอนนิวทรัลประเทศไทย (TCNN) ที่มีพันธมิตรธุรกิจร่วมกันผลักดันให้ประเทศไทยก้าวไปสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (CARBON NEUTRALITY) ในปี ค.ศ. 2050 (พ.ศ. 2593) และมุ่งสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ( NET ZERO GHG EMISSIONS ) ภายในปี ค.ศ. 2065 (พ.ศ. 2608) โดยโครงการ Hero Zero by Double A X Supalai ได้ต่อยอดมาจากโครงการที่ดั๊บเบิ้ล เอ ได้ดำเนินการภายใต้ชื่อ “Blue Hero Zero Waste by Double A” เป็นโครงการนำกระดาษสำนักงานที่ใช้แล้ว กล่องพัสดุที่ไม่ใช้ คืนกลับสู่กระบวนรีไซเคิล ซึ่งเปิดตัวเมื่อปี 2564 มีผู้เข้าร่วมเป็นสมาชิกทั้งสิ้นกว่า 10 หน่วยงาน โดยผลการดำเนินโครงการที่ผ่านมา สามารถรวบรวมกระดาษเพื่อนำกลับเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลไปได้ทั้งสิ้นกว่า 1,000 กิโลกรัม (1 ตัน) รวมไปถึงโครงการ ”กระดาษแปลงร่าง ถุงยารักษ์โลก” ที่ดั๊บเบิ้ล เอ ได้ดำเนินโครงการอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2561 โดยเชิญชวนบริจาคห่อกระดาษเพื่อจัดทำเป็นถุงใส่ยาให้ผู้ป่วยในโรงพยาบาล ลดการใช้ถุงพลาสติกตามนโยบายรัฐ และช่วยให้ผู้ด้อยโอกาสมีรายได้เสริมจากการพับถุงยาให้กับโครงการด้วย

สำหรับโครงการ Hero Zero by Double A X Supalai ที่ดั๊บเบิ้ล เอ ได้ร่วมกับศุภาลัย นับเป็นครั้งแรกและก้าวสำคัญที่ก่อให้เกิดเครือข่ายความมีส่วนร่วมในการช่วยกันสร้างสังคมคาร์บอนต่ำ บนความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม  โดยเฉพาะด้านการศึกษาที่นอกจากจะนำกระดาษใช้แล้วคืนกลับในกระบวนรีไซเคิลแล้ว ยังได้ร่วมกันส่งมอบสมุดให้กับน้อง ๆ ในโรงเรียนต่าง ๆ ต่อยอดโครงการอีกด้วย

บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) ชวนเพื่อนพนักงานร่วมแบ่งปันความสุข ภายใต้กิจกรรม
สร้างดี
สร้างฝันให้น้อง “อิ่มสุข” โดยเปิดรับการแบ่งปัน ข้าวสาร อาหารแห้ง และเงินสด
รวมมูลค่า 30,000 บาท นำโดย ทีมคณะกรรมการสวัสดิการ เป็นตัวแทนบริษัท ร่วมมอบสิ่งของเพื่อสนับสนุนแบ่งปันให้กับ บ้านเด็กกำพร้าพระสิริ อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ ซึ่งเป็นหนึ่งในศูนย์ช่วยเหลือและบรรเทาทุกข์ให้กับเด็กกำพร้า และเด็กด้อยโอกาส ในถิ่นธุรกันดารในเขตภาคเหนือ โดยทางศูนย์จะนำไปส่งต่อถึงมือให้กับเด็กๆ ในพื้นที่ชุมชนที่คลาดแคลนและยากไร้ เพื่อสร้างคุณภาพชีวิต และความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นให้กับเหล่าอนาคตของชาติ

บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) ขับเคลื่อนพลังงานสะอาดสู่สังคมสีเขียวหนุนโมเดล Grow Green    เดินหน้าติดตั้งโซลาร์เซลล์ เพื่อผลิตพลังงานทดแทนใช้ในอาคารศุภาลัย แกรนด์ ทาวเวอร์ สำนักงานใหญ่ OFFICE BUILDING ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม บนทำเลพระราม 3 โดยคาดว่าจะได้กำลังการผลิตไฟฟ้า  รวมกว่า 535,455 กิโลวัตต์/ปี สามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ 313 ตันคาร์บอนฯ/ปี เทียบเท่าปริมาณดูดซับคาร์บอนฯ ของต้นไม้ จำนวน 80,511 ต้นภายใน 1 ปี

นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯ         มีการวางแนวทางการขับเคลื่อนองค์กรสู่การดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมทั้งทางตรงและทางอ้อมเป็นสิ่งสำคัญ โดยมีการตั้งเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 25% ภายใน 3 ปี รวมทั้งสนับสนุนนโยบายของภาครัฐในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และเป็นส่วนหนึ่งในการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของโลก โดยปัจจุบัน  เทรนด์การใช้พลังงานสะอาดในโครงการที่อยู่อาศัยและอาคารสำนักงานมีเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากภาคธุรกิจและครัวเรือนตระหนักถึงการร่วมกันช่วยลดภาวะโลกร้อน หันมาใส่ใจและเพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานทางเลือกในชีวิตประจำวัน รวมถึงนวัตกรรรมและเทคโนโลยีสามารถเข้าถึงได้ง่าย ราคาจับต้องได้ จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำคัญที่ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและตอบโจทย์การอยู่อาศัยที่มีคุณภาพอย่างยั่งยืน

บริษัทฯ เดินหน้านำนวัตกรรมที่อยู่อาศัยสีเขียว และนำร่องติดตั้งพลังงานสะอาดจากโซลาร์เซลล์ให้กับลูกบ้านศุภาลัย ในโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบทั้งในกรุงเทพฯ และปริมณฑล อีกทั้งต่อยอดการใช้พลังงานสะอาด   และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ที่อาคารศุภาลัย แกรนด์ ทาวเวอร์ สำนักงานใหญ่ของบมจ.ศุภาลัย มาทดแทนการใช้พลังงานไฟฟ้าภายในอาคารและบริษัทฯ ยังมีแผนร่วมมือกับพันธมิตรธุรกิจที่มีนโยบายดูแลสิ่งแวดล้อม จับมือการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยและธนาคารอาคารสงเคราะห์มอบสิทธิพิเศษสินเชื่อบ้าน Green Loanในโครงการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อรองรับดีมานด์การใช้พลังงานสะอาดที่เพิ่มมากขึ้น

นายกิตติพงษ์ ศิริลักษณ์ตระกูล รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตามนโยบายของบริษัทฯ ที่ส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนและให้ความสำคัญต่อพลังงานสะอาดมากขึ้น บริษัทฯได้ร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจด้านพลังงาน บริษัท เอนเนอร์ยี่ฮับ โฮลดิ้ง จำกัด ดำเนินการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์บริเวณชั้นดาดฟ้าและอาคารจอดรถ ที่อาคารศุภาลัย แกรนด์ ทาวเวอร์ เพื่อเพิ่มการใช้พลังงานสะอาดมาทดแทนการใช้พลังงานไฟฟ้าในเบื้องต้นไฟฟ้าที่ผลิตได้จากโซลาร์เซลล์จะนำไปใช้ในระบบไฟฟ้าและอุปกรณ์ไฟฟ้าบริเวณส่วนกลางภายในอาคาร โดยคาดว่าจะได้กำลังการผลิตพลังงานสะอาดรวมกว่า 535,455 กิโลวัตต์ต่อปี ช่วยลดการปล่อยลด ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 313 ตันคาร์บอนต่อปี เทียบเท่าปริมาณการดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ของต้นไม้ 80,511 ต้นภายใน 1 ปี ประหยัดค่าไฟฟ้าในอาคารเฉลี่ย 2.3 ล้านบาทต่อปี ซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งแหล่งพลังงานทางเลือก ที่ช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าในระยะยาวในภาวะที่แนวโน้มค่าพลังงานมีการปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง

ไม่ใช่แค่ในอาคารสำนักงานเท่านั้น แต่ศุภาลัยเราให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมในทุกโครงการ          พร้อมเตรียมแผนการดำเนินงานขยายการติดตั้งพลังงานสะอาดจากโซลาร์เซลล์ ไปยังโครงการต่างๆ ของศุภาลัยทั่วประเทศ เพื่อพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยที่ประหยัดพลังงานและใส่ใจสิ่งแวดล้อม มอบความคุ้มค่าและประโยชน์ที่ลูกค้าจะได้รับ พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมขับเคลื่อนอย่างยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นรูปธรรมและมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นต่อไป